หน้าเว็บ

8/2/53

เที่ยวลาวใต้ - South Laos Tour



เที่ยวลาวใต้ - หลี่ผี ,LeePhee ,หรือ ,โสมพะมิด





เที่ยวลาวใต้ - คอนพะเพ็ง, Khone Pha Pheng ,ไนแองการ่า แห่งเอเชีย

เที่ยวลาวใต้ - southlaostour

เมื่อประมาณกลางกันยายน  ผมได้ไปเที่ยว ประเทศลาวตอนใต้มา อยาก
ดูน้ำตกคอนพะเพ็ง ที่ลือว่าเป็น ไนแองการ่า แห่งเอเชีย มีเพื่อนเป็นไกด์ พาไป
ในราคามิตรภาพ ไปกัน 8 คน โดยรถตู้ เนื่องจากแต่ละคนต่างมีภารกิจ ไปหลาย
วันไม่ได้ เลยตกลงกันว่าไป แค่ 2 วัน กับ 1 คืน
โปรแกรม วันที่ 1 น้ำตกหลี่ผี น้ำตกคอนพะเพ็ง พักที่ปากเซ
วันที่ 2 น้ำตกตาดผาส้วม น้ำตกตาดเยือง น้ำตกตาดฟาน


วันแรกออกเดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี เวลา 6:00 น.ประมาณ 7โมงกว่า ถึง
อ.สิรินธร แวะพักกินข้าวเช้าที่บ้านพักรับรองในเขื่อนสิรินธร มีให้เลือกทั้ง กาแฟ
ขนมปังไข่ดาวหมูแฮม ข้าวต้มเครื่อง หรือ ข้าวราดแกง รองท้องไว้ก่อน เสร็จแล้ว
ชมวิวรอบๆเขื่อน

"เขื่อนสิรินธร เป็นเขื่อนอเนกประสงค์ที่มีความสำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากจะให้ประโยชน์ทางด้านการผลิตพลังงานไฟฟ้าแล้ว ยังอำนวยประโยชน์นานัปการต่อการพัฒนา ชีวิตความเป็นอยู่ ของประชาชนในภูมิภาคแถบนี้ทั้งทางด้านการชลประทาน การป้องกันอุทกภัย การประมง และการท่องเที่ยว นับเป็นการสงวนและใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ในประเทศให้เกิดประโยชน์ สูงสุดอย่างสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศในยุคปัจจุบัน




พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขนานนาม เขื่อนว่า “เขื่อน สิรินธร""

อ่านประวัติของเขื่อน....

เที่ยวลาวใต้ - ออกจากอุบลราชธานี
แวะทานอาหารเช้าที่เขื่อนสิรินธร












ประมาณ 8โมงกว่าออกเดินทางถึง ด่าน ตม.ช่องเม็ก(ubonratchathani.immigration) ต้องลงจากรถทุกคน แล้ว
เดินผ่านด่าน ส่วนรถก็ขับแยกไปตรวจสัมภาระ อีกทางใช้เวลาไม่นาน เพราะ
เพื่อนไกด์ได้ติดต่อประสานงานทำเอกสารไว้ก่อนแล้วรูปถ่ายก็ไม่ได้ใช้ไกด์ติดต่อ
ให้เสร็จ ที่ด่าน มีไกด์สาวชาวลาวมารับ เป็นข้อตกลงว่า ถ้าเดินทางเป็นหมู่คณะ
เกิน 5คน ต้องมีไกด์ชาวลาวร่วมเดินทางไปด้วย แต่ก่อนออกเดินทางก็ได้ แวะ
ซื้อของ ที่ “ร้านค้ายกเว้น พาสี ด่านวังเต่า”  ไว้กินบนรถ

เที่ยวลาวใต้ - ด่าน ตม. ช่องเม็ก
เดินเข้า ประเทศลาว
ร้านค้ายกเว้น พาสี ด่านวังเต่า
ไกด์สาวรอต้อนรับนักท่องเที่ยว

สินค้าเกษตรราคาถูก 10ปีก่อน วางขายทั่วไป ไปคราวนี้ มะเหมี












ออกจากด่าน ต้องขับชิดขวาตลอด ที่ลาวพวงมาลัยอยู่ซ้าย รู้สึกขัดๆ
เพราะเมืองไทยขับชิดซ้าย พวงมาลัยขาว  ถนนแบบรถวิ่งสวนกัน จะแซงทีไร
ไกด์สาวต้องคอยบอกว่าว่างไม่ว่าง ดูทางไปเธอก็เรื่องต่างๆเกี่ยวกับประเทศลาว
ที่ควรรู้ และ ปะหวัดสาด ของสถานที่ต่างๆ เช่น ตำนานเรื่องรักสามเส้าของ
ท้าวบาเจียง กับ นางมะโรง และ เศรษฐีชาวเมืองจำปาสัก ที่นำมาตั้งเป็นชื่อ
สถานที่ต่างๆเช่น ตาดผาส้วม ภูมะโรง ฟังแล้วเศร้าน้ำตาจะไหล  สำเนียง 
ภาษาลาวจะคล้ายภาษาอีสานของเรา เขาพูดลาว เราพูดไทย(อีสาน) ก็ฟังกัน
รู้เรื่อง แต่มีบางคำที่ใช้ไม่เหมือนกันเธอก็จะบอกคำแปล ไปด้วย เช่นแม่น้ำโขง
ที่นั่นเขาเรียก แม่น้ำของ ขวดเรียกว่าแก้ว ถ้านั่งดื่มเบียร์อยู่จะขอแก้วเพิ่ม 1ใบ
ถ้าเราบอกน้องขอแก้วใบเขาจะเอาเบียร์เย็นๆ เปิดฝามาให้อีกขวด (เราก็ต้อง
ตำจอก กันต่อไป)  ต้องบอกว่าขอจอก สำเนียงแตกต่างไปบ้างฟังดูแปลกดี
ไพเราะไป อีกแบบ พอไกด์บอกว่าที่เมืองลาวไม่เคยมีรถชนกัน เป็นคุณละจะ
เชื่อมัยแต่คิดไปคิดมา ก็ไม่อยากจะเชื่อ โฮ คนลาวเขาคงขับรถแบบรักษากฎ
จราจรดีมาก ไม่เคยมีอุบัติเหตุ? แต่แล้วพอเธอพูดต่อผมก็ถึงบางอ้อ เธอ ไม่
ได้พูดผิด เพราะที่นี่ไม่มี รถชนกัน มีแต่ รถตำกัน คำว่าชนเขาใช้กับ สัตว์ ถ้า
เดินชนกับคนลาว  จะต่อว่าเขาต้องบอกว่าตำข้อยทำไม ไม่งั้นเขาจะ โกรธ
เอา สองข้างทางที่รถผ่านส่วนใหญ่เป็นทุ่งนาเหมือนนั่งรถไปต่างจังหวัด เดิน
ทางได้ประมาณ 45 กม. ก็ถึงสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น ยาว 1,380 เมตร
ข้ามแม่น้ำโขงเข้าสู่เมืองปากเซ เมืองหลวงใหม่ของแคว้นจำปาสัก ที่กำลัง
เจริญขึ้นเรื่อยๆ (เดิมเมืองหลวงคือเมืองจำปาสักอยู่ไกลออกไปทางใต้ คนละ
ฝั่งแม่นำโขง) ที่เขาย้ายมาน่าจะเป็นเพราะทำเลมันหมาะ เป็นจุดพักก่อนแยก
ขึ้นเหนือ ไปลาวตอนกลางลาวเหนือ ตะวันออกไปออก ขึ้นที่ราบสูงโบลาเวน
ต่อไปลง ทะเลเมืองดานังของเวียดนาม  ลงใต้ออกทะเลที่เขมร ทางตะวันตก
ก็เป็น ด่านช่องเม็ก จ.อุบลฯ ของไทย

southlaos map
เที่ยวลาวใต้ - ข้ามแม่น้ำโขงเข้าปากเซ
สะพานมิตรภาพ ลาว - ญี่ปุ่น 1,380 ม.
เที่ยวลาวใต้ - ปากเซ
เที่ยวลาวใต้ - ปากเซ เช้าวันเสาร์



ถึงปากเซ ทัวร์ของเรามุ่งลงใต้เลาะริมแม่น้ำโขงตามเส้นทางไป ประเทศเขมร
สุ่ น้ำตกหลี่ผี กะจะไปกินมื้อกลางวันที่ท่าเรือ บ้านนากะสัง ซึ่งเป็น ท่าเรือข้ามฟาก
ไปยัง เกาะเดด เกาะคอน ก่อนเที่ยง เพราะเป็นช่วงวันหยุดสุด สัปดาห์ คนมาเที่ยว
กันเยอะประกอบกับมีงานเปิดที่ทำการมูลนิธิของชาวจีน จึงมีชาวจีนจากประเทศ
ต่างๆ มาร่วมงานได้ยินว่าประมาณ 3,000 คน จน โรงแรมที่พักใหญ่ๆ ถูกจองเต็ม
หมดดังนั้นเราจึงต้องเดินล่วงหน้าเขา 1 ก้าว เดินทางมาได้สักพักก็ถึง หมู่บ้านหนึ่ง
ชื่อบ้านหลัก.... (จำไม่ได้ ถ้าได้ไปก็มาบอกหน่อยนะ) ไกด์สาวบอกว่าจะแวะจอด
ให้เข้าห้องน้ำ เคยไดยินคำเตือนว่า เวลาไปจอดรดที่ไหน จะเปิดประตูหรือหน้า
ต่างอย่าเพิ่งยื่นหน้าออกไปต้องระวัง นิดนึง เพราะจะมีแม่ค้ามาแย่งกันขายของยื่น
ไม้ปิ้งไก่เข้ามาเดี๋ยวจะทิ่มหน้า ทิ่มตาเอา (เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว ขาพะทะนากาแล้มะ
เหมี) พอรถจอดสนิท ก็เปิดประตูออกไป ก็มีแม่ค้าวิ่งมาขาย ไก่ย่าง เนื้อย่าง มีทั้ง
เนื้อวัว ฟาน(เก้ง) มีทั้งตากแห้งเป็นของฝาก หรือย่างเสร็จแล้ว(ลองดูแล้วกับข้าว
เหนียวอร่อยดี) และพวกแมลง ต่างๆ เช่น ตั๊กแตน จิ้งโกร่ง(หรือ จิ๊นายจิ๊โป่ม)
ตัวใหญ่น่ารับประทานมาก นอกจากนั้น ยังมีผลไม้ ข้าวโพด ฟักบัว น้ำ น้ำแข็ง
และอื่นๆ มีให้หมด (มีรถสายทางมาจอดด้วย) พวกเราก็แยกย้ายกันเข้าห้องน้ำ
ใกล้ๆที่จอดรถ เขาก็จะมีคนคอยเก็บเงิน คนละ 1,000
กีบ (อัตราแลกเปลี่ยน ประมาณ 250 กีบ : 1 บาท  เช็ค Rate ก่อนไปน่าจะ 267 )
แต่ถ้าเป็นเงินไทยเขาจะเก็บ 5 บาท ไม่ทอน ถ้าไม่อยากเสีย ดุล จะแลกเงินกีบ
ไปใช้ก็ไม่ว่ากัน จะได้พกเงินเป็นล้านกับเขา ซักที รวยเสียให้เข็ด เพราะเที่ยวที่นี่
ต้องหมดไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน(กีบ)แน่ๆ 

เที่ยวลาวใต้ - แวะพักเข้าห้องน้ำ
เที่ยวลาวใต้ - แม่ค้าเดินขายตามรถ
เขาบอกว่าเป็นเนี้อเก้ง(ฟาน)
กล้วยปิ้ง - ปลาปิ้ง
ไก่ย่างตัวใหญ้
จิ๊โป่ม จิ๊นายย่าง
ที่นี่เขามีจานดาวเทียม
มีรถประจำทางวิ่ง แต่ช้ากว่าจะถึง


เข้าห้องน้ำเสร็จ ก็เดินทางต่อถึงท่าเรือบ้านนากะสัง รวมระยะทาง จากปากเซ
ถึงที่นี่ ประมาณ 150 กม.ดูนาฬิกา ประมา 11 น.ตรงท่าเรือจะมีร้านอาหาร
(แปลเอง) ชื่อร้าน”วังวิวัน” สร้างด้วยไม้ทางขึ้นอยู่บนตลิ่งตัวเรือนใช้เสายก
สูงปลูกยื่นไปในชายหาดริมแม่น้ำ กินไปชมวิวไป ดูเรือวิ่งเข้าวิ่งออก เกือบ
เที่ยงยังมีเด็กผู้ชายมาแก้ผ้ากระโดดน้ำ อยู่ 5-6 คน ตัวเล็กๆ แต่ว่ายน้ำเก่ง
เป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ อาหารส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลา แต่ก็มีเนื้อ มีส้มตำ
ไก่ย่าง เหมือนอาหารอิสานบ้านเรา แต่ถ้ากินไม่ได้ ก็มีไข่เจียวให้

เที่ยวลาวใต้ - ถึงบ้านนากะสัง
ร้านอาหารริมฝั่งแม่น้ำโขง
ทัวร์คณะนี้หนักไปทางกิน
กินเกือบเสร็จมีทัวร์กรุ๊ปใหญ่เข้า



กินเสร็จรอเรือมารับ

เด็กๆ ปีนเรือกระโดดน้ำ




เรือพานักท่องเที่ยวกลับจากหลี่ผี

สะพานแบบประยุกต์


ข้าม มหานทีสี่พันดอน
















กินเสร็จก็ออกมาลงเรือเหมาลำเล็กนั่งได้ประมาณ 10 คน แต่ในเรือไม่มีเสื้อ
ชูชีพ ไกด์สาวจึงสั่งให้ล่องลงไปเอาที่ที่เรืออีกแห่ง ก่อนลงเรือควรใส่เสื้อชูชีพ
ก่อน ถ้าที่เรือไม่มีก็ให้ไกด์หาให้ เพื่อความปลอดภัยเพราะแม่น้ำกว้างมาก ถ้า
มีอุบัติ เหตุ ถึงว่ายน้ำไม่เป็นก็จะช่วยพยุงตัว แล้วหาที่ยึดเกาะ รอคนมาช่วยได้)
บริเวณนี้เป็นช่วงที่กว้างที่สุดของแม่น้ำโขง จนได้ชื่อว่า เป็น“มหานทีสี่พันดอน”
คือมีเกาะทั้งใหญ่และน้อย นับรวมกันได้ สี่พันเกาะ บางเกาะใหญ่มากเป็น ที่
ตั้งที่ว่าการอำเภอ คือ เกาะโขง (ดอนโขง) นั่งเรือไปก็เกร็งไป เพราะเป็น หน้า
ฝนระดับน้ำในแม่น้ำขึ้นสูง น้ำขุ่นเป็นสีออกแดงๆ ไกด์สาวบอกว่าถ้าเป็นหน้า
แล้งระดับน้ำจะลดต่ำกว่านี้มาก สามารถพายเรือต้อนวัวควายให้มันว่ายข้ามน้ำได้
น้ำจะใสมองเห็นสาหร่ายหรือหญ้าใต้น้ำซื่งวัวควายจะชอบดำลงไปกิน(เหมือน
ปลาพะยูนเลย) ลัดเลาะไปตามเกาะเล็ก เกาะน้อย บางเกาะก็เห็นมีกระท่อม
ชาวนา มีคนทำนาอยู่บนเกาะ ผ่านมา2-3 เกาะ ก็มองเห็นดอนเดดตอนบน นั่ง
เรือเข้าไปใกล้ก็จะมองเห็น บ้านเช่า เกสเฮาส์ หรือ รีสอร์ท เรียงรายไปตาม ริม
เกาะ ล่องสักพักก็มาถึงท่าเทียบเรือ มองเห็น ปั้นจั่นยักษ์ เป็นโครงคอนกรีต สร้าง
สมัยที่ฝรั่งเศสปกครองลาว ยื่นออกมาจากฝั่ง สำหรับ ใช้ยกสินค้า ที่บรรทุกมา
ทางเรือ จากลาวกลางลาวเหนือ ขึ้นรถไฟ เพื่อลำเลียงลงใต้ข้าม สะพานไปยัง
เกาะคอนจนถึงตอนใต้ของเกาะคอนก็จะเป็นท่าเรือเพื่อขนสินค้า ลงเรือล่องไป
ตามแม่น้ำโขงผ่านเขมรออกสู่ทะเลต่อไป

เที่ยวลาวใต้ - เกาะเดด , เกาะคอน

เที่ยวลาวใต้ - ริมฝั่งเกาะเดดตอนเหนือ
เรือตีโค้งก่อนเข้าเทียบท่า
เที่ยวลาวใต้ - ปั้นจั่นยักษ์
ร้านกาแฟ เครื่องดื่ม
ชื่อบ้านอะไรน๊า... ให้ทาย(ลองเดาดูซิ)












พอขึ้นจากเรือก็เดินมาที่ท่ารถโดยสาร 5 แถว รถในลาวส่วนมาจะใช้ รถฮุนได
ของเกาหลี (คล้ายรถสองแถวบ้านเรา แต่ของเขาทำเป็น 5 แถว เรียงตาม
ขวาง ด้านข้างเปิดหมด ด้านบนมีหลังคา ล้อหลังแต่ละข้างจะเป็นล้อเล็ก 2 ล้อ
ติดกัน สำหรับคนที่มาพักหลายวัน และชอบปั่นจักรยาน เขาก็มีจักรยานให้เช่า)
นั่งมาไม่ไกลก็พบหัวจักรรถไฟโบราณที่เหลือแต่ซากทิ้งไว้ให้ดูเป็นอนุสรณ์ เลย
ออกไปก็จะเป็นทุ่งนา เห็นมีเสาโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วย ถนนแคบมาก รถใหญ่วิ่ง
สวนกันไม่ได้ ระหว่างทางจะพบนักท่องเที่ยว ทั้งชาวฝรั่ง เกาหลี ญี่ปุ่น จอดรถ
จักรยาน หลบรถของเราเป็นระยะๆ คงเป็นนักท่องเที่ยว แบบBackPacker ที่
มาพักบนเกาะทีละหลายๆวัน ก็โบกไม้โบกมือ ทักทายกันไป ชมวิวข้างทางไป
เรื่อยๆ สักพักก็มาถึงอีกฝั่งหนึ่งของเกาะ ก็จะพบสะพานข้ามไปยังเกาะคอน ที่
เชิงสะพาน มีด่านเก็บเงิน (สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งเขาจะมีด่านเก็บเงิน เพื่อ
เป็น ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว) มีร้านอาหาร และ
เกส เฮาส์ ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยว หลายแห่ง ขับต่อมาอีกนิดหนึ่งก็จะเป็นที่
จอดรถ


เที่ยวลาวใต้ - มุ่งหน้าสู่หลี่ผี

เที่ยวลาวใต้ - รถ 5 แถว

ออกเดินทางสู่เกระคอน หลี่ผี

รถไถนาดัดแปลง

ซากหัวรถจักร (รถไฟ) โบรา










พอลงจากรถก็จะได้ยินเสียงน้ำตก เดินข้ามสะพานเล็กๆ ลอดสุมทุมพุ่มไม้
ไปไม่ไกลก็ถึง จุดชมน้ำตกหลี่ผี ซึ่งอยู่ริมฝั่งทางตะวันตกตอนบนของเกาะ
คอน ลักษณะของน้ำตกจะเป็น แก่งหิน ขนาดใหญ่จำนวนมาก วางสลับซับ
ซ้อนขวาง กั้นลำน้ำโขง เอาไว้ ยกระดับน้ำตอนบนให้สูงกว่าระดับน้ำตอน
ล่างของแก่งหิน พื้นดินรอบๆ และตอนล่างของแก่งหิน ถูกกระแสน้ำกัดเซาะ
ออกไปหมด บ้างก็ว่า เป็นการยุบตัวของเปลือกโลก น้ำที่เคยไหลบ่ามาอย่าง
รวดเร็ว ถูกบีบให้ไหลเลี้ยว หมุนวนไปตามช่องแคบ ซอกหิน พร้อมลดระดับ
ลงอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดพลัง กระแทก อย่างรุนแรง จนสายน้ำสาดซ่านกระ
เซ็น ฟูฝอย เป็นละออง เสียงดัง สนั่นหวั่นไหว ตื่นตาตื่นใจ เห็นแล้วหายเหนื่อย
คุ้มค่าสมกับที่ดั้นด้นมาจากแดนไกล แต่สายน้ำอันเชี่ยวกราก ยังอุดมไปด้วย
ฝูงปลา และสัตว์น้ำนานาชนิด ด้วยภูมิ ปัญญาของชาวบ้านในท้องถิ่น สร้างสะ
พานไม้และหลี่เ ยื่นเข้าไปในน้ำตก ไปรอง ดักจับปลา แต่ในความสวยงามยัง
ซ่อนไว้ด้วยเรื่องราวของความโหดร้ายของ สงครามอินโดจีน เนื่องจากมีซาก
ศพของทหารและชาวบ้านจำนวนมากที่เสียชีวิต ไหลมาติดอยู่ตามเกาะแก่งหิน
ที่เป็นเหมือนตะแกรง หรือ หลี่ ธรรมชาติคอยดักจับ เอาไว้ รวมทั้งติดอยู่ตามหลื่
ดักปลาของชาวบ้าน (โดยปกติถ้ามีสัตว์หรือคนจม น้ำตาย ก็จะลอยมาติดให้
เห็นอยู่บ่อยๆ) จนเป็นที่มาของชื่อ “น้ำตกหลี่ผี” ซึ่งฟังดู น่ากลัว ต่อมาทางการ
ได้ตั้งชื่อให้ใหม่ เป็น ตาด”โสมพะมิด” หรือ “สัมพะมิด” แปลว่า สัมพันธมิตร
ของเรานี่เอง





เที่ยวลาวใต้ - หลี่ผี
ช่วงวันหยุดนักท่องเที่ยวเยอะเป็นพิเศษ

เที่ยวลาวใต้ - ทางเดินร่มรื่นดี

ถึงตรงนี้ก็ได้ยินเสียงน้ำตกแล้ว
หลี่ผี ช่วงน้ำหลากสวยงามมาก
น้ำสีแดง - น้ำตาลเข้มด้วยตะกอนโคลน
สวยงามสมคำร่ำลือ
อนาคตถ้ามีการสร้างเขื่อนกั้นลำน้ำโขงตอนบนเยอะๆ
ไม่รู้ว่าน้ำที่ไหลมาถึงหลี่ผี
จะมากแบบนี้หรือเปล่า












เดินชมวิวพร้อมเก็บภาพสวย อยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ก็เดินอ้อมไปดูร้านค้า ร้าน
ขายของที่ระลึก แวะกินมะพร้าวอ่อน คนละลูก ไอศกรีมถ้วย ที่บ้านเรา ขาย 20
บาทที่นี่เขาขาย 60 บาท เพราะต้องขนข้ามน้ำข้ามเรือมา แล้วจึง กลับมาขึ้นรถ
กลับมาที่ท่าเรือ ลงเรือข้ามฟากมาขึ้นฝั่งทางบ้านนากะสัง เดิน ผ่านตลาด ไปขึ้น
รถตู้ที่จอดรอรับอยู่ เดินทางลงไปทางใต้อีกประมาณ 20 กม. ก็ถึงจุดจอดรถ













เดินต่อเข้าไปอีกไม่ไกลก็ถึง จุดชมวิวของน้ำตกคอนพะเพ็ง สร้างเป็นศาลา
หลังใหญ่ มีนักท่องเที่ยวเยอะมาก ต้องรอคิวกันถ่ายรูป น้ำตกคอนพะเพ็งก็มี
ลักษณะเหมือนกับน้ำตกหลี่ผี คือประกอบด้วยแก่งหินขนาดใหญ่เหมือนกัน
แต่ที่นี่ ถ้ามองจากศาลาชมวิว มุมมองต่างๆสวยงามกว่ามาก ตรงกลางแม่น้ำ
จะมองเห็นขอบสันน้ำตกมีลักษณะเป็นแนวเดียวกัน รับกับแนวแก่งหินริมฝั่ง
ทั้ง 2 ข้างที่เรียงรายรับกันจนดูวงโค้ง ระดับของแม่น้ำด้านบนและด้านล่าง
ต่างกันชัดเจน เหมือนมันขาดยุบต้วลงไป กระแสน้ำก็เชี่ยวแรงกว่ามาก ตรง
กลางเป็นน้ำตก ส่วนแก่งหินต้านข้างก็จะมีสายน้ำพวยพุ่งตกลงมา ละอองน้ำ
กระเซ็นเป็นฟูฝอย ส่งเสียงซู่ซ่าดังสนั่นอยู่ตลอดเวลาแม้จะเป็นช่วงน้ำหลาก
ช่วงที่น้ำตกลงมาไม่สูงเหมือนในหน้าแล้ง แต่ก็สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจ ความ
รุนแรงของกระแสน้ำ แต่ถ้ามาหน้าแล้งน้ำจะไม่ไหลแรงเท่า แต่ระดับความสูง
ของน้ำตกจะมีมากกว่า คือสวยคนละแบบ สมกับชื่อ “ไนแองกาล่า แห่งเอเชีย “
จริงๆ หลังจากดูวิวบันศาลาแล้วเดินลงมาข้างล่าง เห็นมีคนเดินลงไปตามทางด้าน
ขวามือ ผมจึงตามลงไป จนถึงริมฝั่งของแม่น้ำที่เต็มไปด้วยโขดหินได้เห็นได้
สัมผัส กับน้ำตกในระยะไกลมาก มีอยู่จุดนึง ที่น้ำไหลเลี้ยวผ่านโขดหินอ้อมลง
มาตรงจุดที่เรายืนอยู่ ถ้าไม่มีแก่งหินมาขวางกั้นไว้คงถูกซัดหายจมไปกับกระ
แสน้ำ ถ้าถ่ายรูปแล้วยกมุมกล้องให้พ้นแก่งหิน จะดูเหมือน สายน้ำกำลังถาโถม
เข้าใส่ตัวเรา ตื่นตา ตื่นใจ กว่าอยู่บนศาลาเสียอีก พอขึ้นมา ไกด์สาวเล่าให้ฟังว่า
สมัยก่อน โดยเฉพาะในคืนวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวง จะมีหนุ่มสาวพากันไปดู
น้ำตก และพลอดรักกัน ใต้แสงจันทร์ ยามแสงจันทร์สาดส่องต้องกระทบกับ
กระแสน้ำที่เชี่ยวกรากและละอองน้ำที่สาดกระเซ็นจะแลดูสวยงามระยิบระยับ
จับตา ดังราวจะตรึงเอาดวงจันทร์ไว้บนคอน จนเป็นที่มาของชื่อ “คอนพะเพ็ง”
ดังนั้นการไปดูน้ำตกทั้ง 2 แห่งนี้ ต้องไปดู น้ำตกหลี่ผี่ก่อน แล้วค่อยมาดู คอน
พะเพ็ง ไม่งั้นจะจืด ถ้าดูดีๆจะเห็น ว่าแก่งหินที่กางกั้นแม่น้ำโขง นี้จะลาก เป็น
แนวยาวจากฝั่งซ้าย ไปจนถึงฝั่งขวาของแม่นี้โขง เป็นเหมือนปราการหรือ เขื่อน
ธรรมชาติที่แข็งแกร่ง กักกั้นน้ำเอาไว้ ทำให้แม่น้ำตอนบนแผ่กว้างออก ไปเ
หมือนพัดใบลาน พื้นดินส่วนที่แข็งกว่าก็จะกลายเป็นเกาะ ส่วนที่อ่อนกว่า ก็จะ
ถูกกัดเซาะเป็นสายน้ำ ก่อเกิดเป็นเกาะน้อยใหญ่จำนวนมาก ในสมัยที่ฝรั่ง เศส
เข้ามายึดครอง แม้จะใช้ความพยายามเอาระเบิดไประเบิดแก่งหิน บริเวณ น้ำตก
ทั้ง 2แห่ง ออกเพื่อเปิดทางให้เรือขนาดใหญ่ที่มาจากทะเลผ่านประเทศ เขมร
ล่องผ่านขึ้นเหนือได้อย่างสะดวก แต่ก็ไม่สำเร็จ จนด้องสร้างทางรถไฟ จาก
เกาะคอนตอนใต้ เลาะชายฝั่งตะวันออก(คนละด้านกับน้ำตกหลี่ผี)ข้าม สะพาน
ไปยังท่าเรือทางตอนเหนือของเกาะเดด


เที่ยวลาวใต้ - ถึงแล้ว คอนพะเพ็ง ไนแองการ่า แห่ง เอเชีย

เที่ยวลาวใต้ - คอนพะเพ็ง
เที่ยวลาวใต้ - คอนพะเพ็ง
southlaostour - khonephapheng
south laos tour - khonephapheng
toursouthlaos - khonephapheng















เที่ยวดูจนพอแล้ว จึงขึ้นรถเดินทางกลับปากเซ ถึงปากเซ เวลาประมาณ ทุ่มครึ่ง
เข้าที่พักอาบน้ำเสร็จ ก็นั่งรถข้ามสะพานออกไปกินข้าวที่ร้านอาหารริมฝั่ง ลำเซ
โดน อยู่ฝั่งตรงข้ามกับ วังเจ้าบุญอุ้ม (โรงแรมจำปาศักดิ์พาเลซ) ที่ประดับ
ไฟอย่างสวยงามมองเห็นแต่ไกล


เที่ยวลาวใต้ - มื้อค่ำ ริมฝั่งลำเซโดน

เที่ยวลาวใต้ - ริมฝั่งลำเซโดน ปากเซ
















กินข้าวเสร็จเวลาประมา 3 ทุ่ม เลยชวนกันไปเที่ยวต่อตอนแรกว่าจะไปเที่ยว
ดิสโก้เทค แต่ไกด์สาวบอกว่า ส่วนใหญ่จะมีแต่เด็กวัยรุ่น ไม่น่าเที่ยวจึงไปเที่ยว
ห้องอาหารชื่อ “แก้วทิบ” ที่มีฟลอร์ลีลาศรำวง ฟังเพลงลาว สลับกับเพลงสากล
เพลงไทยก็มีนะ ส่วนใหญ่เป็นจังหวะลีลาศ คนที่เต้นเป็น ก็สนุกกันไป ส่วนผม
ถนัดนั่งดู ทนคะยั้นคะยอไม่ไหวเลยออกไปรำวงซะ 1 รอบ ที่ลาวนี้เขาจะมี ท่า
เต้นที่สวยงามน่ารักๆ จังหวะสนุกสนาน ที่นิยมเต้นกันเป็นประจำในงานรื่นเริง
ต่างๆ หรืองานที่ค่อนข้างจะเป็นทางการ เรียกว่า บัดสลบ แบบที่เต้นใน"สบายดี
หลวงพระบาง" โดยผู้เต้นจะออกมายืนเรียงกัน เต้นสลับเท้าไปตามจังหวะอย่าง
พร้อมเพียงกัน โดยไม่มีการจับไม้จับมือแตะเนื้อต้องตัวกัน เป็นการรักษาขนบ
ธรรมเนียมที่ดีงาม ที่ร้านอาหารนี้ก็จะมีเต้นการเต้นบัดสลบ สลับกับการร้องเพลง
หรือเต้นรำจังหวะอื่นเป็น ระยะ ที่ร้านอาหารในลาวจะไม่ค่อยมีการทะเลาะวิวาท
ชกต่อยกันเพราะว่า นอกจาก จะถูกจับแล้วต้องจ่ายค่าอาหารเหมาร้าน (คงจะ
จ่ายค่าเสียหายปหลายล้าน...) คนอื่นที่ไม่ใช่คู่กรณีที่มาดื่มกินก็สบายไปไม่
ต้องจ่ายเงิน นั่งฟังเพลงถึงสี่ทุ่มกว่า ก็พากันกลับที่พักหลับนอนเอาแรง เพราะที่นี่
เหมือนมีเคอฟิว 5 ทุ่มห้ามออกนอก บ้าน(แต่บางคนเอาการบ้านไปทำด้วยก็มี
ชวนกันนั่งบวกเลขต่อ ส่วนผมขอนอน ก่อนเพราะเห็นไกด์สาวบอกว่าพรุ่งนี้จะพา
ไปน้ำตกตาดเยืองไปดู "ขาอ่อน สาวราว"เห็นจริงๆ
ครับ มีถาพมาให้ดูด้วย อิอิ...คิดอะไรอยู่ รู้นะ !!! )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น